
ในปัจจุบัน การผ่าตัดเสริมหน้าอกได้มีการพัฒนาเทคนิคอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการทั้งในด้านผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและความสามารถในการซ่อนรอยแผลเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคนิค TASPA (Transaxillary Subpectoral Augmentation) ที่เป็นนวัตกรรมเด่นของหมอบี พฤกษาแกรนด์คลินิก ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเข้าถึงซิลิโคนผ่านทางรักแร้เข้ากับการวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกอย่างแม่นยำ
เทคนิค TASPA เป็นวิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ดำเนินการโดยศัลยแพทย์จะกรีดแผลบริเวณรักแร้ (Transaxillary) ซึ่งมักจะถูกซ่อนไว้ตามรอยพับตามธรรมชาติของผิว จากนั้นจึงทำการสร้างช่องว่าง (Pocket) เพื่อรองรับซิลิโคน โดยมีลักษณะสำคัญคือการวางตำแหน่งซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก (Subpectoral) เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความปลอดภัยในการสร้างโพรงผ่าตัดตั้งแต่บริเวณรักแร้ไปยังหน้าอก ศัลยแพทย์จะนิยมใช้กล้องเอนโดสโคป (Endoscope) ซึ่งเป็นเครื่องมือขนาดเล็กที่มีกล้องและแสงสว่างในการนำทาง เพื่อให้สามารถมองเห็นโครงสร้างทางกายวิภาคภายในได้อย่างชัดเจนตลอดการผ่าตัด ความช่วยเหลือจากกล้องเอนโดสโคปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมการห้ามเลือด และการสร้างโพรงที่มีขนาดและตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการวางซิลิโคนให้มีความสมดุล

เสริมหน้าอก เทคนิค TASPA ใส่ซิลิโคนเข้าทางรักแร้ ซ่อนแผลเป็นให้กลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกและให้ความสำคัญกับการซ่อนรอยแผลเป็น เทคนิค TASPA (Transaxillary Subpectoral Augmentation) ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเทคนิคนี้เป็นการผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านทางรักแร้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ผลลัพธ์ที่สวยงามควบคู่ไปกับการซ่อนร่องรอยการผ่าตัดได้อย่างดีเยี่ยม
- แผลผ่าตัดอยู่ใต้รักแร้ กลมกลืนไปกับรอยพับใต้ท้องแขน
- เจ็บแผลมาก ต้องพักฟื้น เพราะต้องมีการตัดเลาะเนื้อเยื่อเยอะกว่า

เทคนิค TASPA (Transaxillary Subpectoral Augmentation) ไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่เรื่องการซ่อนแผลผ่านทางรักแร้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสำคัญของการ วางตำแหน่งซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อ (Subpectoral) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ของหน้าอกดูสวยงาม เป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยในระยะยาว การวางซิลิโคนในตำแหน่งนี้มีข้อดีที่สำคัญหลายประการดังนี้ครับการวางซิลิโคนในตำแหน่งใต้กล้ามเนื้อหน้าอก (Pectoralis Major Muscle) เป็นที่นิยมอย่างมากในการเสริมหน้าอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำร่วมกับเทคนิค TASPA เพราะช่วยเสริมข้อดีซึ่งกันและกัน:
- เหมาะสำหรับเคสที่มีเนื้อหน้าอกน้อย อาศัยกล้ามเนื้อช่วยหนุน
สำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเดิมน้อย การวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อจะช่วยให้กล้ามเนื้อทำหน้าที่เป็น Support และเป็นเนื้อเยื่อธรรมชาติอีกชั้นหนึ่งในการห่อหุ้มซิลิโคน ทำให้หน้าอกดูนูนและอิ่มเต็มบริเวณขอบบนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นเป็นขอบของซิลิโคนชัดเจน - เป็นตัวช่วยหนุน ให้หน้าอกดูมอิ่ม ทรงหน้าอกได้รูปมากขึ้น
การที่กล้ามเนื้อช่วยประคองซิลิโคนไว้ จะทำให้หน้าอกมีรูปทรงที่สวยงามและได้สัดส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อซิลิโคนเข้าที่แล้ว จะช่วยให้หน้าอกดูเป็นทรงหยดน้ำและพุ่งสวยอย่างเป็นธรรมชาติ - ลดโอกาสการเกิดพังผืด หรือซิลิโคนลอยตัวมากขึ้น
การวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อมีส่วนช่วย ลดโอกาสการเกิดพังผืด (Capsular Contracture) ได้ดีกว่าการวางเหนือกล้ามเนื้อ เนื่องจากแรงกดและแรงนวดตามธรรมชาติของกล้ามเนื้อจะช่วยป้องกันการหดรัดของถุงพังผืด นอกจากนี้ยังช่วยตรึงซิลิโคนให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ลอยหรือเคลื่อนตัวง่าย - ป้องกันการเห็นขอบซิลิโคนชัด อกสวย เป็นธรรมชาติ
เมื่อมีชั้นกล้ามเนื้อมาคลุมทับซิลิโคนไว้ จะช่วยให้ขอบซิลิโคนดูนุ่มนวลและกลมกลืนไปกับสรีระของร่างกาย ป้องกันปัญหาการเห็นขอบซิลิโคน (Rippling) ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณเนินอก ทำให้หน้าอกสวยเนียน และเป็นธรรมชาติเมื่อสวมใส่เสื้อผ้า

ข้อดีของเทคนิค TASPA ที่พฤกษาแกรนด์คลินิก
✅ แผลเล็ก ซ่อนแผลเนียน
แผลจะอยู่ในบริเวณใต้รักแร้ ปกปิดได้ง่าย ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นบริเวณหน้าอก
✅ ลดความเสี่ยงติดเชื้อ
เทคนิคกล้องส่องช่วยให้ศัลยแพทย์ ผ่าตัดได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย
✅ เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว
ลดการกระทบกระเทือนเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวได้ไว
✅ หน้าอกสวยเป็นธรรมชาติ
วางซิลิโคนได้ตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้หน้าอกมีรูปทรงที่สวยงามและสมดุล
✅ ไม่กระทบเนื้อเยื่อเต้านม
เทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดผ่านเนื้อเยื่อเต้านมหรือท่อน้ำนมโดยตรง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่วางแผนจะให้นมบุตรในอนาคต
✅ ลดความเสี่ยงพังผืด
การวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดพังผืดหดรัดได้
ข้อจำกัดของเทคนิค TASPA
❌ ความยากของเทคนิค
การผ่าตัดด้วยวิธีนี้มีความซับซ้อนกว่าวิธีอื่นๆ เนื่องจากศัลยแพทย์ต้องสอดเครื่องมือเข้าไปจากระยะที่ไกลกว่าเดิม ซึ่งต้องอาศัยทักษะและความ
ชำนาญสูง
❌ ความเสี่ยงซิลิโคนเคลื่อนที่
หากศัลยแพทย์ใช้การผ่าตัดแบบที่ไม่มีกล้องช่วย อาจเพิ่มความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะวางตำแหน่งไม่เหมาะสมและเกิดความไม่สมดุลได้
❌ ความเจ็บปวดมากขึ้น
การเลาะกล้ามเนื้อหน้าอกอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดหลังการผ่าตัดมากกว่าการวางซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อ
❌ ค่าใช้จ่ายสูงกว่า
เนื่องจากความซับซ้อนของเทคนิค อาจทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีอื่น
❌ การแก้ไขภายหลัง
หากจำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไขในอนาคต แผลที่รักแร้อาจไม่ใช่จุดที่เหมาะสมที่สุด และอาจต้องกรีดแผลใหม่ในตำแหน่งอื่น
❌ พังผืดหดรัด
แม้ว่าจะมีความเสี่ยงน้อยลง แต่ภาวะพังผืดหดรัดก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับการผ่าตัดเสริมหน้าอกทุกวิธี

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าอกทคนิค TASPA ที่พฤกษาแกรนด์คลินิก
การกรีดแผล: ศัลยแพทย์จะทำการกรีดแผลที่รักแร้ โดยมักจะซ่อนแผลไว้ตามรอยพับตามธรรมชาติเพื่อไม่ให้เห็นได้ชัด
การสร้างโพรง: ศัลยแพทย์จะสร้างโพรงสำหรับใส่ซิลิโคน โดยจะใช้วิธีการเลาะเนื้อเยื่อตั้งแต่รักแร้ไปยังบริเวณหน้าอก การผ่าตัดแบบนี้มักใช้กล้องเอนโดสโคป (กล้องขนาดเล็ก) เข้ามาช่วย เพื่อให้ศัลยแพทย์มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในการสร้างโพรงใต้กล้ามเนื้อ
การใส่ซิลิโคน: ซิลิโคนจะถูกสอดผ่านทางแผลที่รักแร้ และวางไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก (subpectoral) ซึ่งช่วยให้ซิลิโคนมีเนื้อเยื่อปกคลุมมากขึ้น ส่งผลให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย
การเย็บปิดแผล: เมื่อวางซิลิโคนเรียบร้อยแล้ว ศัลยแพทย์จะเย็บปิดแผลที่รักแร้

เสริมหน้าอกเทคนิคส่องกล้องที่ พฤกษาแกรนด์คลินิก ดีอย่างไร
✅ แม่นยำสูงในการเลาะโพรงวางซิลิโคน
✅ แผลเล็ก ซ่อนแผลเนียน
✅ ลดการเกิดลิ่มเลือด
✅ ลดการทำลายเส้นประสาท
✅ ลดความเสี่ยงการเกิดพังผืดหดรัด
✅ พักฟื้นน้อย ฟื้นตัวไว ไม่ต้องใส่สายเดรน

การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค TASPA เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการซ่อนรอยแผลผ่าตัดให้เรียบเนียน
◦ เนื่องจากรอยกรีดจะถูกซ่อนไว้ในรอยพับของรักแร้ ทำให้บริเวณหน้าอกไม่มีร่องรอยการผ่าตัดปรากฏให้เห็นโดยตรง - ผู้ที่มีปริมาณเนื้อหน้าอกเดิมน้อย หรือผิวหนังบาง
◦ การวางซิลิโคนในตำแหน่ง ใต้กล้ามเนื้อ (Subpectoral) มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเพิ่มชั้นเนื้อเยื่อมาปกคลุมซิลิโคน ซึ่งช่วย
ป้องกันการมองเห็นขอบซิลิโคน (Rippling) และทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ - ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติสูง
◦ การวางใต้กล้ามเนื้อช่วยให้การไล่ระดับความโค้งของหน้าอกมีความนุ่มนวลและกลมกลืนกับสรีระ โดยเฉพาะในส่วนบนของเต้านม - ผู้ที่วางแผนจะให้นมบุตรในอนาคต
◦ เนื่องจากช่องทางการสอดซิลิโคนไม่ผ่านเนื้อเยื่อเต้านมและท่อน้ำนมโดยตรง จึงมีโอกาสสูงที่จะรักษาสภาพของต่อมน้ำนมและความ
สามารถในการให้นมบุตรไว้ได้ - ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงภาวะพังผืดหดรัด
◦ การวางใต้กล้ามเนื้อมีความเชื่อมโยงทางคลินิกกับการลดความเสี่ยงของการเกิดพังผืดหดรัด (Capsular Contracture)

